[EN] How to finds the nth data from a list?
In this article, let’s understand and write a program to find the nth order from a list of data in Python, tested with Python and Micropython.
In this article, let’s understand and write a program to find the nth order from a list of data in Python, tested with Python and Micropython.
บทความก่อนหน้านี้ได้กล่าวถึงการปรับปรุงปรับปรุงความเร็วในการแสดงผลด้วยการใช้เทคนิคดับเบิลบัฟเฟอร์ (double buffer) จึงนำมาประยุกต์ใช้สำหรับการแสดงผลเป็นนาฬิกาแบบแอนาล็อกดังภาพที่ 1 ซึ่งวิธีการวาดนั้นใช้การคำนวณตรีโกณมิติเพื่อหาค่าพิกัด (x,y) ของปลายเข็มวินาที นาที และชั่วโมง โดยการทำงานของแต่ละวินาทีจะใช้ตัวตั้งเวลาหรือไทเมอร์ (Timer) เพื่อให้การทำงานนั้นใกล้เคียงกับเวลาจริงมากกว่าการวนรอบหรือการหน่วงเวลา
ในบทความก่อนหน้านี้ได้แนะนำการเขียนโปรแกรมเพื่อใช้โครงสร้างข้อมูลแบบคิวไปแล้ว ในบทความนี้จึงแนะนำการเขียนโปรแกรมจัดการโครงสร้างข้อมูล (Data Structure) อีกประเภทหนึ่งซึ่งมีวิธีการจัดเก็บและจัดการที่แตกต่างกันไปอันมีชื่อว่าต้นไม้แบบ BST หรือ Binary Search Tree ดังในภาพที่ 1 ซึ่งเป็นโครงสร้างที่สามารถนำไปประยุกต์เกี่ยวกับการเก็บข้อมูลที่มีคุณลักษณะที่ข้อมูลทางกิ่งด้านซ้ายมีค่าที่น้อยกว่าตัวเอง และกิ่งด้านขวามีค่ามากกว่าต้นเอง หรือทำตรงกันข้ามคือกิ่งซ้ายมีค่ามากกว่า และกิ่งด้านขวามีค่าน้อยกว่า ทำให้การค้นหาข้อมูลในกรณีที่ต้นไม้มีความสมดุลย์ทั้งทางซ้ายและทางขวาบนโครงสร้าง BST ประหยัดเวลาหรือจำนวนครั้งในการค้นหาลงรอบละครึ่งหนึ่งของข้อมูลที่มี เช่น มีข้อมูล 100 ชุด ในรอบแรกถ้าตัวเองยังไม่ใช่ข้อมูลที่กำลังค้นหา จะเหลือทางเลือกให้หาจากกิ่งทางซ้ายหรือขวา ซึ่งการเลือกทำให้ข้อมูลของอีกฝั่งนั้นไม่ถูกพิจารณา หรือตัดทิ้งไปครึ่งหนึ่งโดยประมาณ แต่ถ้าเป็นกรณีที่ Binary Search Tree นั้นขาดความสมดุลย์จะส่งผลให้การค้นหามีความเร็วไม่แตกต่างกับการค้นหาแบบลำดับ (Sequential Search) เท่าใดนัก
ในบทความนี้ใช้ภาษาไพธอนที่ทำงานได้ทั้งบนตัวแปลภาษา Python 3 หรือ MicroPython เพื่อจัดเก็บข้อมูล การเพิ่มข้อมูล การค้นหาข้อมูล เพื่อเป็นตัวอย่างของการนำไปพัฒนาต่อไป
ในบทความนี้ใช้ความรู้จากบทความการอ่านรายชื่อพอร์ตอนุกรมที่ถูกเชื่อมต่อมาปรับปรุงให้เป็นการส่งข้อมูลส่งไปให้บอร์ด Arduino Uno ที่มีหลอดแอลอีดี (LED) เชื่อมต่ออยู่ที่ขา 2,3,4,5,6,7,8 และ 9 ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งเปิดหรือปิดหลอดดังกล่าวด้วยการสั่งงานผ่าน GUI (Graphics User Interface) ของ PyQt5 ดังภาพที่ 1 และส่งข้อมูลไปให้บอร์ด Uno ทางพอร์ตสื่อสารอนุกรมด้วย pySerial โดยในตัวอย่างครั้งนี้ การทำงานรองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Windows, macOS และ Linux ซึ่งจะทำให้เห็นว่า PyQt5 และ pySerial สามารถรองรการทำงานกับทั้ง 3 ระบบได้
จากบทความก่อหน้านี้เราได้อ่านรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับพอร์ตอนุกรมของบอร์ด Raspberry Pi หรือ RPi ด้วยไลบรารี pySerial ดังภาพที่ 1 ในแบบโหมดตัวอักษรไปแล้ว ในบทความนี้เป็นการผนวกหลักการทำงานจากก่อนหน้าเข้ากับการใช้ส่วนติดต่อกับผู้ใช้แบบกราฟิกส์ หรือ GUI (Graphics User Interface) ผ่านทางไลบรารี PyQt5 โดยแสดงรายการเอาไว้ใน combobox เพื่อให้ผู้ใช้งานเลือกใช้งานได้ แต่ถ้าไม่พบพอร์ตสื่อสารอนุกรมที่เชื่อมต่อกับบอร์ด RPi จะปิดการใช้งานของ combobox ไม่ให้ผู้ใช้งานเลือกใช้งาน ดังนั้น บทความนี้จึงมีเนื้อหาเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ pySerial กับการใช้งานของ QLabel และ QComboBox ในไลบรารี PyQt5
บทความนี้กล่าวถึงการใช้ไลบรารี pySerial ของภาษาไพธอนบนบอร์ด Raspberry Pi หรือ RPi ทั้งรุ่น 3 และ 4 เพื่อเชื่อมต่อกับพอร์ตสื่อสารอนุกรม (Serial Port) ซึ่งตัวบอร์ดสามารถทำได้ 2 ลักษณะคือ ใช้ฮาร์ดแวร์อย่าง ET-CONV10/RS232 HAT ที่ได้เขียนถึงในหนังสือ กับการใช้พอร์ต USB เชื่อมต่อกับตัวแปลงเป็นพอร์ตสื่อสารอนุกรม (USB to Serial Port) ดังภาพที่ 1 โดยบทความนี้เป็นการใช้แบบที่ 2 เพื่อเรียกใช้ pySerial สำหรับตรวจสอบว่ามีพอร์ตอนุกรมเชื่อมต่ออยู่กี่พอร์ตและชื่ออะไรบ้าง ดังตัวอย่างในภาพที่ 8
This article uses the Python programming language of the Raspberry Pi board with OpenGL to render a 3D image of a rectangular box rotated towards the X, Y and Z axes.
This article provides an example of opening a window and using a button in response to PyQt5, which is the basis for using the other components. The highlight of Qt is that it is a cross-platform C++ development kit and covers the integration for compatibility with languages such as PyQt, “The python binding for the Qt cross-platform C++ framework” developed by Riverbank Computing Limited, currently released in PyQt 6.1.1 (2021-06-29).
This article describes the MicroPython GY-271 digital compass sensor for use with the ESP8266 or ESP32 (we have experimented with STM32F411CEU6 with Raspberry Pi 3B+ and 4B and found that it can be used as well) to set the operation and read the X,Y and Z axis values from the sensor, then calculate it as the degree of north.
This article is programming in Python to drive a robot moving with wheels. VisionRobo car is a robot kit that is equipped with a DC motor that is attached to a wheels gear set. It uses a circuit to drive a DC motor connected to Raspberry Pi Board and connect a USB WebCamera Module and Ultrasonic Sensor Module for image processing and calculate the distance of the robot to the surrounding objects.